การออกแบบ ของ ซุคฮอย ซู-34

ซู-34 กำลังลงจอด

ห้องนักบินและระบบอิเลคทรอนิกอากาศ

มันไม่เหมือนกับซู-27 รุ่นก่อนหน้า ซู-34 นั้นมีห้องนักบินแบบกระจกที่ทันสมัย มันมีจอแสดงผลสีแบบซีอาร์ที ระบบอิเลคทรอนิกอากาศของมันในปัจจุบันจะมีเรดาร์วี004 ของเลนิเน็ทส์ และระบบเลเซอร์/โทรทัศน์แบบยูโอเอ็มซี (Urals Optical-Mechanical Plant) สำหรับระบุและนำทางกระสุนนำวิถี เรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าจะรวมเข้ากับเรดาร์วี005 ที่ด้านหลังที่ติดตั้งอยู่ในส่วนหางที่เรียกว่า"สติงเกอร์" ซู-34 มีอุปกรณ์อีเอ็มซี (Electronic countermeasures) หรืออุปกรณ์ป้องกันอิเลคทรอนิก ซึ่งรวมทั้งระบบตรวจับการยิงขีปนาวุธ

ระบบอิเลคทรอนิกอากาศมีคอมพิวเตอร์ บอร์ดความจำ จอแสดงผลลแบบสี และหน่วยประมวลผลกลางที่ออกแบบมาเพื่อบรรจุข้อมูลในตัวเอง พวกมันประกอบด้วยหน่วยคอมพิวเตอร์"อาร์กอน"ขนาดใหญ่พร้อมกับหน่วยประมวลผลที่ถูกโปรแกรมมาเป็นพิเศษ ซึ่งมีช่องแลกเปลี่ยนข้อมูลมามาย โมดูลข้อมูลทั้งหมดถูกควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์กลางซึ่งจะส่งข้อมูลทั้งหมดและทำงานรวมกับข้อมูลของห้องนักบิน การเชื่อมต่อข้อมูลแบบสองทางทำให้สามารถเปลี่ยนแผนหรือการเล็งอาวุธได้ในขณะที่ทำการบิน ในฐานะเครื่องบินจู่โจม ซู-34 จึงมีเรดาร์ตรวจภูมิประเทศ ความสามารถในการหลบหลีกขณะทำความเร็วสูง และการปฏิบัติการในระดับความสูงต่ำ

จุดเด่นสุดของซู-34 คือห้องนักบินที่กว้างผิดปกติ การออกแบบมากมายเกี่ยวกับความสบายของลูกเรือ นักบินทั้งสองจะนั่งข้างกันในห้องขนาดใหญ่ โดยมีนักบินผู้บัญชาการอยู่ทางด้านซ้าย และผู้นำร่องหรือผู้ควบคุมอาวุธอยู่ทางด้านขวา ข้อได้เปรียบของห้องนักบินแบบนี้คือทั้งสองใช้เครื่องมืออุปกรณ์ร่วมกันได้ ซึ่งเพื่อความมีประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย เมื่อการทำภารกิจที่ยาวนานต้องการความสบายมันจึงมีการรักษาความดันในเครื่องบินที่มำให้มันสามารถบินได้สูงถึง 32,800 ฟุตโดยที่นักบินไม่ต้องใช้อากาศหายใจ ซึ่งมีไว้เพื่อสถานการณ์ฉุกเฉินและการสู้รบ[11] ลูกเรือจะมีห้องพอที่จะยืนและขยับได้ตลอดการทำภารกิจ[12][13] ช่องว่างระหว่างที่นั่งทำให้พวกเขาสามารถนอนได้หาจำเป็น[11] ห้องน้ำขนาดเล็กและห้องครัวอยู่ที่ด้านหลังที่นั่ง[12][11]

เรดาร์ระยะไกล ระบบตรวจจับ ระบบสื่อสาร และข้อมูลจะอยู่ในที่เดียวกันพร้อมด้วยความจุระยะไกลที่สามารถเติมน้ำมันกลางอากาศได้ มันทำให้ซู-34 สามารถเฝ้าดูและเป็นที่ควบคุมได้ ทำให้มันระบบจัดการการรบอย่างสมบูรณ์

การทำงาน

ซู-34 มีที่บรรทุก 12 ตำแหน่งที่จุได้มากถึง 8,000 กิโลกรัม ซึ่งจะรวมอาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ของรัสเซียเอาไว้ด้วย มันมีปืนใหญ่จีเอสเอช-30-1 ขนาด 30 ม.ม.เหมือนกับซู/27 และซู-30[14]

ซู-34 ให้ความสะดวกสบายกับลูกเรือเพื่อความมีประสิทธิภาพในการทำภารกิจ นักบินสามารถใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์วิทยุร่วมกัน อุปกรณ์เหล่านี้ทำให้การทิ้งรเบิดมีความแม่นยำโดยที่จะพลาดก็เพียงไม่กี่เมตรและทำได้ในทุกสภาพอากาศ ระเบิดที่ขนาด 8 เมตตริกตันที่มันบรรทุกซึ่งรวมทั้งขีปนาวุธเหนือเสียงและระเบิดร่อน จะสามารถทำลายเป้าหมายที่ป้องกันหนาแน่นได้ไกลถึง 250 กิโลเมตร เนื่องมาจากการเข้าประจำการพร้อมกับฝูงบินทิ้งระเบิดในเร็วๆ นี้มันจึงมีระบบที่ปลอดภัยพร้อมกับสมองกล ระบบนี้ทำให้เครื่องบินสามารถทำการบินที่อันตรายได้ทั้งความสูงระดับยอดไม้และระดับพื้นดินโดยใช้ความเร็วได้มากสูงสุดที่ 1,400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซู-34 ยังสามารถบินตามสภาพภูมิประเทศ ผ่านสิ่งกีดขวาง และแอบเข้าสู่พื้นที่ป้องกันทางอากาศ ลูกเรือจึงสามารถทำการทิ้งระเบิดที่มีประสิทธิภาพ ถอยกลับ ทำลายอาวุธของศัตรู และปลอดภัยจากขีปนาวุธและกระสุนต่อต้านอากาศยานได้

การทำภารกิจของซู-34 จะเริ่มด้วยการวางแผนและนำข้อมูลโอนถ่ายเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์หลักทั้งสองของเครื่องบิน ข้อมูลเชื่อมกับเครื่องบิน สถานีภาคพื้น และเรือบัญชาการที่จะทำการดูแลและเป็นที่ที่มีข้อจำกัดทางสายตาจึงต้องใช้ระบบการสื่อสารด้วยดาวเทียม การอัปเดตภารกิจสามารถส่งผ่านเข้ามาในเครื่องบินเวลาใดก็ได้ขณะทำการบิน ระเบิดมากมายจะถูกใช้ตรงกับความจำเป็นอย่างเช่น ขีปนาวุธร่อนแบบเคเอช-59 โอวอด/เคเอช-59เอ็มอี เคเอช-29 และเคเอช-31 อาวุธต่อต้านเรือแบบเคเอช-35 และขีปนาวุธต่อต้านเรือระยะไกลแบบเคเอช-41

ซู-34 มีถังเชื้อเพลิงภายในขนาดใหญ่สำหรับเที่ยวบินที่ไม่มีการเติมน้ำมันตลอด 4,000 กิโลเมตร ด้วยการเติมเชื้อเพลิงสามครั้งซู-34 จะสามารถบินได้มากกว่า 14,000 กิโลเมตร วิศวกรรมบนเครื่องบินทำให้แน่ใจว่าลูกเรือจะมีข้อมูลมากพอเกี่ยวกับตัวแปรของการบิน สภาพของระบบบนเครื่องบิน และเครื่องยนต์ จุดประสงค์ในอากาศบนพื้น บนพื้นน้ำ และใต้น้ำ เรดาร์จะทำการตรวจจับเกี่ยวกับมุมองศาของภัยคุกคาม ทำให้พวกมันเป็นจุดสำคัญของเครื่องบินลำใหม่นี้ นอกจากนี้ซู-34 ยังมีจุดเด่นที่เรดาร์ที่ด้านหลังทำซึ่งสามารถตรวจจับ ติดตาม และชี้เป้าให้กับขีปนาวุธอากาศสู่อากาศอาร์-73 หรืออาร์-77